วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ทำอย่างไร! เมื่อเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก

บาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกพบได้บ่อย โดยมากมักจะมีสาเหตุจากอุบัติเหตุ ความประมาท ขาดความระมัดระวัง ซึ่งอาการการบาดเจ็บจะมีความรุนแรงมากน้อยเพียงใดขึ้นกับหลายปัจจัยครับ ปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ ระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับความร้อน อวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บ ระดับความลึกของบาดแผลและขนาดความกว้างพื้นที่ของบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกนั้นๆ
3 ระดับความลึกของบาดแผล
ความลึก ระดับ 1 คือ บาดแผลอยู่แค่เพียงผิวหนังชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น ซึ่งโดยปกติจะหายเร็วและไม่เกิดแผลเป็น
ความลึก ระดับ 2 คือ บาดเจ็บในบริเวณผิวหนังชั้นหนังแท้ บาดแผลประเภทนี้ ถ้าไม่มีภาวะติดเชื้อแทรกซ้อนมักจะหายภายใน 2-3 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับความลึกของบาดแผลจากอุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเกิดร่องรอยผิดปกติของบริเวณผิวหนัง หรืออาจมีโอกาสเกิดแผลเป็น แผลหดรั้งตามได้ ถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง  กรณีถูกไฟไหม้ หากบาดเจ็บไม่ลึกมากก็จะพบว่าบริเวณผิวหนังจะมีตุ่มพองใส เมื่อตุ่มพองนี้แตกออกบริเวณบาดแผลเบื้องล่างจะเป็นสีชมพู และผู้ป่วยจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนมาก แต่ถ้าพยาธิสภาพค่อนข้างลึกจะพบว่า สีผิวหนังจะเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองหรือขาว ไม่ค่อยเจ็บ
ความลึก ระดับ 3 คือ ชั้นผิวหนังทั้งหมดถูกทำลายด้วยความร้อน บาดแผลเหล่านี้มักจะไม่หายเอง มีแนวโน้มการติดเชื้อของบาดแผลสูง และมีโอกาสเกิดแผลหดรั้งตามมาสูงมากถ้าได้รับการรักษาไม่ถูกต้อง
  สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
1.ล้างด้วยน้ำสะอาดที่อุณหภูมิปกติ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลช่วยลดการหลั่งสารที่ทำให้เกิดอาการปวดบริเวณบาดแผลได้
2.หลังจากนั้นซับด้วยผ้าแห้งสะอาด แล้วสังเกตว่าถ้าผิวหนังมีรอยถลอก มีตุ่มพองใส หรือมีสีของผิวหนังเปลี่ยนไป ควรรีบไปพบแพทย์ แต่ถ้าไฟไหม้ น้ำร้อนลวกบริเวณใบหน้า จะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะบริเวณใบหน้ามักจะเกิดอาการระคายเคืองจากยาที่ใช้ ห้ามใส่ยาใดๆ ก่อนถึงมือแพทย์ เพราะผู้ป่วยแต่ละคนมีอาการตอบสนองต่อตัวยาไม่เหมือนกัน จะต้องขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์
ข้อห้ามเมื่อโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
ไม่ควรใส่ตัวยา/สารใดๆ ทาลงบนบาดแผล ถ้าไม่แน่ใจในสรรพคุณที่ถูกต้องของยาชนิดนั้น โดยเฉพาะยาสีฟัน น้ำปลา เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบาดแผล เพิ่มโอกาสการเกิดบาดแผลติดเชื้อ และทำให้รักษาได้ยากขึ้น รอยแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก สามารถเกิดได้ในกรณีที่บาดแผลมีความลึกค่อนข้างมาก หรือ ไม่ได้รับการรักษาโดยถูกต้อง แต่เมื่อเกิดรอยแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวกขึ้นแล้ว สามารถรักษาและทำให้ดีขึ้นได้ แม้ว่าจ ะไม่สามารถทำให้สีผิวกลับมาเหมือนปกติได้ดังเดิมก็ตาม
      การรักษาเริ่มตั้งแต่…
1. ใช้ยาทาในระยะเริ่มต้น
2.การใส่ชุดผ้ารัด ในกรณีที่รอยแผลจากไฟไหม้น้ำร้อนลวกมีแนวโน้มที่จะนูนมากขึ้นและไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาทา
3.ฉีดยาลบรอยแผลเป็น ซึ่งจะทำได้ในกรณีที่เกิดรอยแผลนูนและไม่ตอบสนองต่อการใส่ชุดผ้ารัด
4.ผ่าตัดแก้ไข โดยแพทย์จะต้องทำการประเมินลักษณะและความรุนแรงของบาดแผล
ทั้งนี้ ขึ้นกับชนิดและความรุนแรงของบาดแผลหดรั้งเหล่านั้น… โดยทั่วไปช่วงอายุของผู้ป่วยไม่เป็นอุปสรรคในการรักษาบาดแผล และวิทยาการการรักษา ณ ปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมาก
       ดูแลตนเองหลังการรักษา
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นผง หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้ระคายเคือง
2.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ทุกชนิด เพราะหากโดนบริเวณแผลก็อาจทำให้คันหรือมีการติดเชื้อได้ง่าย
3.รับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น พวกเนื้อสัตว์ต่างๆ เพื่อเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่บริเวณบาดแผลให้บาดแผลสมานปิดเร็วขึ้น
4.หมั่นทายา/รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ ต้องรักษาความสะอาดแผลให้ดี
อุบัติเหตุไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้บ่อยในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดจากความประมาทแทบทั้งสิ้น ถ้าต้องทำอาหารและอาจต้องสัมผัสของร้อน ควรระมัดระวังและป้องกันตนเองให้ดี ในบ้านที่มีเด็กเล็ก ควรระมัดระวังและจัดหาสถานที่ที่วางวัสดุที่มีความร้อนให้เหมาะสม ห่างจากมือเด็กเอื้อมถึงได้ ส่วนบุคลากรที่ต้องทำงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเครื่องทำความร้อนต่างๆ ที่มีโอกาสสัมผัสกับเปลวไฟหรือเปลวเพลิงสูง ควรมีการป้องกันตนเองให้เหมาะสมด้วย ทั้งนี้เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติภัยไฟไหม้ น้ำร้อนลวกนี้ครับ

10นิสัยทำร้ายสมองที่ไม่ควรมองข้าม

ใครที่กำลังอยู่ในภาวะสมองตื้อคิดอะไรไม่ค่อยออก อย่ามองว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะสาเหตุนั้นอาจมาจากการที่สมองโดนทำร้าย วันนี้มีความรู้เกี่ยวกับ 10 นิสัยที่ทำร้ายสมองมาฝากกัน
1.ไม่ทานอาหารเช้า หลายคนคิดว่าไม่ทานอาหารเช้า แล้วจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ แต่ที่จริงแล้วการไม่ทานอาหารเช้าเป็นสาเหตุให้สารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ และทำให้สมองเสื่อมได้
2.กินอาหารมากเกินไป การกินในจำนวนที่เยอะเกินพอดี เป็นต้นเหตุทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำสั้น
3.การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุของโรคสมองฝ่อและเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์
4.ทานของหวานมากเกินไป มีผลมากต่อการทำร้ายสมอง เพราะการทานหวานมากเกินไปจะขัดขวางการดูดกลืนโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นสาเหตุของการขาดสารอาหารและขัดขวางการพัฒนาสมอง
5.การอดนอน คนที่อดนอนเป็นเวลานานจะทำให้เซลล์สมองตายได้ ส่วนการนอนหลับจะทำให้สมองได้พักผ่อน
6.มลภาวะ สมองเป็นส่วนที่ใช้พลังงานมากที่สุดในร่างกาย การสูดเอาอากาศที่เป็นมลภาวะเข้าไปจะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยส่งผลให้ประสิทธิภาพของสมองลดลงเรื่อยๆ
7.ขาดการใช้ความคิด การคิดเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการฝึกสมอง การขาดการใช้ความคิดเป็นเวลานานเป็นต้นเหตุของอาการสมองฝ่อ
8.เป็นคนไม่ค่อยพูด ทักษะทางการพูดจะเป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพของสมอง ถ้าไม่ค่อยพูดจากับคนอื่นสมองก็จะไม่ได้แสดงประสิทธิภาพเท่าที่ควร
9.นอนคลุมโปง เป็นเรื่องเล็กน้อยในความคิดของใครหลายคน แต่ที่จริงแล้วการนอนคลุมโปงเป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มากขึ้นและลดออกซิเจนให้น้อยลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง
10.ใช้สมองในขณะที่ไม่สบาย การทำงานหรือเรียนขณะที่กำลังป่วย จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเหมือนกับการทำร้ายสมองไปในตัว
สมองนับเป็นอวัยวะส่วนที่สำคัญของเรา อย่าลืมใส่ใจและรักษาสุขภาพสมองของตัวเองให้ดี

ทำอย่างไรเมื่อเหน็บกิน

อาการเหน็บชาเกิดขึ้นเมื่อมีแรงกดทับส่วนใดส่วนหนึ่งบนแขนหรือขา ทำให้เส้นเลือดไม่สามารถนำออกซิเจนและน้ำตาลกลูโคสไปยังเนื้อเยื่อหรือเส้นประสาทได้ มีผลคือ เส้นประสาทไม่สามารถสื่อสัญญาณไปยังสมอง จึงทำให้เกิดความรู้สึกชาและเจ็บจี๊ดเหมือนถูกเข็มแทง ใครที่เป็นบ่อย ๆ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 เช่น ข้าวซ้อมมือ ข้าวแดง ข้าวโอ๊ต รำข้าว ตับ ไข่ มันเทศ เป็นต้น หากไม่หายควรไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้
ใครที่เคยเป็นคงรู้ว่าช่วงเวลาที่เหน็บกินนั้น ทรมานแค่ไหน วิธีแก้ไขง่าย ๆ แนะนำให้นวดที่นิ้วโป้งเท้าข้างที่โดนเหน็บกิน โดยบีบแรง ๆ จะสามารถบรรเทาอาการได้ ส่วนคนโบราณมีความเชื่อว่า เมื่อเกิดอาการเหน็บชา ให้หาก้านไม้ขีด หรือกิ่งไม้ขนาดเล็ก ๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงก็ได้ เหน็บเอาไว้ที่หูข้างที่มีอาการเหน็บชา ประมาณ 20 วินาที จะช่วยทำให้ร่างกายกลับมาเป็นปกติได้ อีกวิธีหนึ่งคือ ให้นำเชือกมาผูกที่หัวแม่เท้าข้างที่เป็นเหน็บ รัดให้แน่น ๆ 2-3 รอบ แล้วรอสักครู่ เท้าที่เป็นเหน็บจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

คัน ‘หู’ คู่โรค

“มุมสุขภาพ” วันนี้ “นพ.กฤษดา ศิรามพุช” ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ บอกเล่าถึง อาการ “คัน” ยิ่งถ้าเป็นอวัยวะที่มีซอกหลืบเยอะอย่าง “หู” ก็มักตีคู่มากับการเกา และขั้นกว่าคือมีเครื่องมือช่วย นั่นคือ “ไม้แคะหู” อุปกรณ์คู่มือยิ่งเกายิ่งมัน ยิ่งคันก็ยิ่งเกา และยิ่งเละ
เพราะการลากไม้แคะไปในท่อหูอ่อนๆ แต่ละครั้งจะทำให้เกิดรอยแผลเล็กๆ ขึ้นมากมายโดยเราไม่รู้ตัว
ปรากฏการณ์เจ็บๆคันๆยันหูอื้อจำต้องมีผู้ร้ายที่ต้องหาให้เจอ  เพราะบางทีถ้าเผลอไปคันเอาสุ่มๆจะเป็นเรื่องเนื่องด้วยหูเป็นอวัยวะซับซ้อนไม่ได้ใช้กั้นสมองอย่างเดียว หากแต่ช่วยในการทรงตัวให้เรายืนอยู่ติดพื้นได้  ถ้าเกิด “หูพัง” หรือ “หูดับ” จากเส้นประสาทขึ้นมาแล้วจะมีผลต่อการเดินดินของเรามากเลย

ซึ่งนับไปมาแล้วก็มีผู้ร้ายใกล้หูอยู่มากพอดู เริ่มจาก “แคะหูถี่” มีตัวช่วยเร่งปฏิกิริยาคือ “ไม้แคะหู” ถ้าเป็นไม้ธรรมดาก็ยังพอว่า แต่ถ้าหาไม้ไม่ได้แล้วจำต้องใช้ของใกล้ตัวอย่าง “เส้นผม” หรือ “ไม้จิ้มฟัน” แล้วละก็มีสิทธิ์ “หูป่วย” ได้เร็วขึ้น  โดยเป็นได้ตั้งแต่รูหูอักเสบไปจนถึงแก้วหูทะลุหนองทะลัก  วิธีแก้คืออย่าแคะหูถี่ไป โดยเฉพาะหลังอาบน้ำหูแฉะใหม่ๆ ไม่ควรแคะทันทีและถ้ามีอาการเจ็บๆ คันๆ ก็อาจต้องให้คุณหมอช่วยส่องดูสักนิด เพราะอาจมีเชื้อราแพร่พันธุ์อยู่


“มีอุบัติเหตุ”
 นอกจากการถูกกระทบกระแทกหูอย่างแรงจากการตกตึก, รถชน, ถูกสัมผัสบ้องหูด้วยหลังมือ แล้วอุบัติเหตุร้ายที่ทำลายหูที่สำคัญคือ “เสียง” ครับ  เสียงที่ดังเกิน 70 เดซิเบล (บ้านอยู่ติดถนนก็ใช่แล้ว) ก็เริ่มทำลายการได้ยินของหู  ถ้าดังมากเกิน 100 เดซิเบลจะทำลายประสาทหูชั้นในจนทำให้หูดับอย่างถาวรได้  การใช้หูฟังก็มีส่วนสำคัญ โดยเฉพาะหูฟังชนิดเสียบเข้าไปลึกล้ำแทบถึงก้านสมอง  ต้องพักหูบ้าง
“ว่ายน้ำบ่อย” ฉลามน้อยฉลามใหญ่แต่ไม่ใช่ฉลามบกมักมีปัญหา “หูแฉะ” เพราะแคะหูหลังว่ายน้ำ  และน้ำนั่นเองที่เป็นตัวทำให้ “หูเปื่อย” โดยเฉพาะท่อหูส่วนนอก  นักว่ายน้ำเป็นกันมาก เรื่อง “หูส่วนนอกอักเสบ (External Otitis)” จนฝรั่งตั้งชื่อให้โรคนี้ว่าเป็นโรคหูนักว่ายน้ำ(Swimmer’s ear) อาการที่ว่าอาจเป็นในคนที่เพิ่งว่ายน้ำใหม่ๆ ก็ได้  เกิดจากหูเปียกแล้วมือไม่อยู่สุขไปแคะเข้า
และ “ร้อยภูมิแพ้” แก้ไม่ยากหาก “คุมแพ้” ให้อยู่หมัด อาการภูมิแพ้สามารถขึ้นไปจมูก, ลูกตา และหูได้ทำให้คันยุบยิบเชียว ท่านที่ขึ้นเครื่องบินจะสังเกตได้ว่าเวลาเครื่องขึ้นหรือลงจะมีเสียงเด็กร้องฟีเจอริ่งเข้ามาด้วยเสมอ เพราะอาการตันที่ท่อหูจากภูมิแพ้ทำให้เจ็บปวดมากเวลาเครื่องบินเปลี่ยนระดับจากความดันอากาศข้างใน ให้คุมโรคแพ้ด้วยการออกกำลังกับกินอาหารต้านแพ้จะช่วยได้มาก
ที่สำคัญการ “แก้ด้วยยา”  ยาไม่ใช่ทางออกของร้อยโรคเสมอไป ยากินหลายอย่างที่ทำลายหูโดยเฉพาะยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อกลุ่มแบคทีเรียทางเดินปัสสาวะและทางเดินอาหาร  หรืออย่างยาฆ่าเชื้อ “วัณโรค” อย่างสเตร็ปโตมัยซินฉีดแล้วก็ทำให้ประสาทหูเสียได้  บางรายมีเสียงวิ้งๆหึ่งๆ น่ารำคาญเหมือนมีสถานีวิทยุหรือวงมโหรีไม่ได้รับเชิญอยู่ในหัว  ฟังมากๆ พาลจะเป็นโรคประสาทเอา  บางครั้งแม้หยุดยาแล้วอาการก็ยังไม่หายเพราะประสาทหูเสียถาวรไปแล้ว  อยากขอวอนให้ใช้ยาตามความจำเป็น

วิธีแก้ปัญหาส้นเท้าแตกลาย

ปัญหาส้นเท้าอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยๆ คือ ส้นเท้าแตกเป็นลายคล้ายๆกับรอยแยกบนแผ่นดิน บางรายที่มีอาการรุนแรงอาจถึงขั้นมีอาการเจ็บได้ การดูแลนั้นมีด้วยกันหลากหลายวิธีด้วยกัน คือ
1. เพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิวตรงบริเวณที่แตกบ่อยๆ โดยการทาครีมบำรุงผิว ผิวที่เท้าเรานั้นจะสามารถเก็บความชุ่มชื่นน้อยลง เมื่อมีอายุมากขึ้น
2. การเลือกสวมใส่รองเท้าส้นเปิดที่มีบุพื้นภายในด้วยวัสดุนุ่มๆ เพื่อช่วยลดการเสียดสีระหว่างผิวที่ส้นเท้ากับวัตถุเพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหยาบกร้านมากขึ้นนั่นเอง
3. การทำสปาเท้า โดยวิธีง่ายๆ ด้วยตนเอง คือ ใช้เกลือทะเลประมาณ 1 กำมือ ผสมกับน้ำมันกานพลู 5 หยด และน้ำมันคาสเตอร์ 1 ช้อนชา เทรวมลงไปในน้ำอุ่นที่ได้เตรียมไว้ แล้วจึงแช่เท้าในน้ำอุ่นจนน้ำนั้นกลายเป็นน้ำเย็น จากนั้นให้ใช้หินพัมมิซหรือหินสำหรับขัดเท้าที่มีเนื้อเป็นฟองๆ นิ่มๆ ค่อยๆ ขัดเท้าบริเวณที่แตกลายออกเบาๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้เท้าเนียนนุ่มแล้ว ยังมีการไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและเป็นการผ่อนคลายไปในตัว
เท้าแตก2
ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดูคะ รับรองได้ผลอย่างแน่นอน

ป้องกันเชื้อโรคที่แฝงมาจากเครื่องใช้ IT

ปัจจุบัน เครื่องใช้ IT มีบทบาทมากขึ้นในสังคมมนุษย์ เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ของคนเรา ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอปไปด้วย คีย์บอร์ดและเม้าส์ ที่สัมผัสโดยตรง ล้วนสามารถที่จะติดเชื้อโรคได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะุอุปกรณ์ำไอทีที่ใช้ร่วมกันหรือที่เรียกว่า เป็นของสาธารณะ ซึ่งยากต่อการทำความสะอาดและป้องกันเชื้อโรค
เชื้อโรคที่มาจาก อุปกรณ์ IT
หากกล่าวถึงเชื้อโรคที่แฝงมาจากอุปกรณ์ไอทีคงหนีไม่พ้น 2 กลุ่มใหญ่ คือ แบคทีเรียและไวรัส ซึ่งมีผลร้ายที่ไม่แตกต่างกันมากกันมากนัก นอกจากนี้ให้อนุมานว่าอุปกรณ์ IT สาธารณะไม่สะอาด ดังนั้น ระหว่างการใช้งาน ไม่ควรใช้มือหรือนิ้วมือ นำอาหารเข้าปากเป็นอย่างยิ่ง และ ที่ลืมไม่ได้ คือ การล้างมือทำความสะอาดหลังการใช้งานอุปกรณ์ ITสาธารณะทุกชนิด ในทุกสถานที่ด้วย
แบคทีเรียที่ปนเปื้อนมักจะทำให้เกิดอาการ ไข้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ บางกรณีอาจจะรุนแรงกระทั่งถ่ายเป็นมูกเลือดเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วอาการโรคอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียบางชนิดอาจจะทำให้เกิดอาการไตวายในเด็กได้ด้วย
ไวรัสที่ก่อโรค อาจจะแบ่งได้เป็นกลุ่มที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหารเหมือนแบคทีเรีย ซึ่งพบว่าก่อโรคได้ทุกเพศ ทุกวัย และกลุ่มที่ก่อให้เกิดโรคตับอักเสบ อย่างที่หมอซุปเคยเล่าให้ฟังกรณีของการปนเปื้อนน้ำทะเลครับ
ข้อแนะนำสำหรับการป้องกัน
การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะบริเวณที่เราสัมผัสบ่อยๆ เช่น คีย์บอร์ดและเม้า ควรทำความสะอาดล้างมือและนิ้วมือก่อนการใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังออกจากห้องน้ำ เป็นการป้องกันเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมาจากการใช้ห้องน้ำสู่การสัมผัสของอุปกรณ์ไอที ป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่น หากอุปกรณ์เหล่านี้เป็นของใช้สาธารณะ

รักษามือชา เท้าชา ด้วยสมุนไพร

อาการมือชา เท้าชา เกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ เช่น ขาดสารอาหารวิตามินต่างๆ ปลายเส้นประสาทอักเสบ เส้นเลือดส่วนปลายอักเสบ หรืออุดตัน การบำบัดรักษาสามารถใช้อาหารช่วยในการรักษา
มือชา เท้าชา
ใช้เมล็ดงา ๑ ลิตร รำปลายข้าว ๑ ลิตร กระเทียม ๑ กำมือ ฝานบางๆนำไปค่ำให้สุก บดเป็นผงผสมน้ำผึ้ง กินเป็นประจำจนกว่าจะหาย หรือนำถั่วเขียวกับข้าวกล้องปริมาณเท่าๆกันมาต้มจนเปื่อย รับประทานทุกวัน

เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีทำให้ผมยาวเร็วขึ้น

เคล็ด(ไม่)ลับ วิธีทำให้ผมยาวเร็วขึ้น หลากหลายวิธีดังนี้
  • ทานอาาหารที่มีรสจัดมากขึ้น สาร แคปไซซินซึ่งเป็นตัวทำให้พริกมีความเผ็ด จะช่วยให้ผมยาวเร็ว เพราะเหมือนเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยช่วยให้มนุษย์เราเจริญเติบโตขึ้น
  • นมถั่วเหลือง สาร ไอโซฟลาโวนในถั่วเหลือง ซึ่งรู้กันดีว่าเป้นสารที่ช่วยให้ในเรื่องความยาวของเส้นผม ฉะนั้นใครไม่ชอบดื่มนมก็หันมาดื่มนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ ได้ประโยชน์หลายๆอย่างเลยค่ะ
  • ทานอาหารเสริมที่มีไบโอติน ถ้าหากสาวๆคนไหนไม่ค่อยทานผัก โดยเฉพาะ มะเขือเทศ แครอท ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ผมเรายาวเร็วล่ะก็ คงต้องหาอาหารเสริมมาทานกันแล้วล่ะค่ะ
  • นวดหนังศรีษะ การนวดหนังศรีษะจะช่วยให้มีการหมุนเวียนบริเวณรูขุมขนได้ดีขึ้น
  • เลิกเครียด ความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้ผมยาวช้า เช่นเดียวกับความเจ็บป่วยอื่นๆที่อาจจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้เส้นผมเรายาว ช้า ฉะนั้นใครเครียดเป็นประจำ จงหาวิธีผ่อนคลายตัวเองนะคะ
จะสังเกตได้ว่า ไม่ว่าเราจะมัปัญหาอะไรก็ตาม วิธีแก้ส่วนใหญ่ก็จะบอกให้เลิกเครียด เพราะฉนั้น พยายามเลิกเครียด อย่าคิดมากนะคะ ^-^
เคล็ดลับ ดูแลผมสำหรับสาวผมยาว

รู้ทัน ฝรั่งแช่บ๊วย อันตรายถึงชีวิต

อย่างฝรั่งแช่บ๊วยที่เป็นที่โปรดปรานแก่สาวๆทั้งหลาย ระวังให้ดีนะคะ เพราะมีข่าวออกมาเตือนว่า มันอันตรายสามารถทำให้เสียชีวิตได้เลย ขอเตือนหนุ่มสาวออฟฟิศที่ชอบผลไม้รถเข็น
เพราะเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสยาม เขาร่วมกันเก็บตัวอย่างผลไม้รถเข็นเพื่อทดสอบการปนเปื้อนในอาหาร
20121212_1844_1355297734_797028
ปรากฏว่าผลไม้แปรรูปมีการปนเปื้อนของสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายถึงร้อยละ 64.2 ส่วนใหญ่เป็นฝรั่งดองบ๊วยที่มีสีเขียวและสีแดงเข้ม และยังมีสารกันราหรือวัตถุเคมีเจือปนอยู่ในผลไม้ถึงร้อยละ 32.1 โดย พญ. มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ออกมาเตือนว่าการบริโภคผลไม้และอาหารที่มีสีสันสวยงามจากสารเคมี อาจส่งผลให้ท้องเสีย ท้องร่วง คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ หูอื้อ มีไข้ หายใจขัด เป็นบ่อเกิดมะเร็งและอาจทำให้เสียชีวิตได้ด้วยซ้ำ ดังนั้น การเลือกผลไม้ควรพิจารณาจากสี และรูปร่างที่มีลักษณะเป็นธรรมชาติ และดูความสะอาดดีๆ หากเป็นไปได้เตรียมผลไม้มารับประทานเองจะปลอดภัยที่สุดค่ะ หรือเลือกร้านที่ปลอดภัยที่สุด หรือให้เลือกรับประทานผลไม้สดแทน อย่าง ฝรั่งสด จะมีวิตามินสูงมาก แนะนำให้กินสดดีกว่าแปรรูปค่ะ

Hitohira No Hanabira - Stereopony


hitohira no hanabira ga yurete iru boku no tonari de ima
machigatta koi datta sonna koto omoitaku wa nai
teru no mukou kurai kao shiteru
kiridasu kotoba ni obietenda
ittai itsu kara bokura konna kimochi ni
kizukanai furi tsuzukete tanda
deatta hi no you na ano suki tooru kaze no naka de
yarinaoseru no nara mou ichido dakishimetai
hitohira no hanabira ga yurete iru boku no tonari de ima
machigatta koi datta sonna koto omoitaku wa nai
suki datta hazu datta itsu datte koe ga kikitaku naru hodo
sore nanoni te ga todoku saki no kimi ga mienaku narisouda
heiki datte sugu gaman shiteta nowa
kitto bokutachi no warui toko de
itsumo issho ni itaitte omotteta noni
surechigai wa genjitsu wo kaeta
deatta hi no you na ano yawaraka na egao datte
sugu ni tori modoseru ki ga shiteta dakishimetai
hitohira no hanabira ga yurete iru boku no tonari de ima
machigatta koi datta sonna koto omoitaku wa nai
damatta mama no kimi no te no hira
tadori tsuita namida ga hajiketa
konna bokutachi no jikan wo maki modoshite
hitohira no hanabira ga mai ochita boku no tonari de ima
machigatta koi datta nante wasurerareru hazu wa nainda
suki datta suki datta ima datte sugari tsukitaku naru hodo
sore nanoni te ga todoku saki no kimi ga

แปลไทย

กลีบดอกไม้พลิ้วลงมาข้างๆฉัน และบัดนี้
ฉันไม่อยากจะคิดว่าความรักนี้เป็นความผิดพลาด
อีกฝากของโต๊ะ เธอมีสีหน้ามืดมนเช่นนี้
เธอกลัวที่จะเอ่ยอะไรขึ้นมาทำลายความเงียบระหว่างเรา
เมื่อไหร่กันนะที่เราเริ่มแสร้งทำเป็น
ไม่สังเกตความรู้สึกเหล่านี้?
หากว่าเราอยากจะเริ่มต้นกันใหม่ เหมือนดั่งวันที่เราแรกพบ
ท่ามกลางสายลมที่โปร่งใส ฉันอยากจะโอบกอดเธอเอาไว้
กลีบดอกไม้พลิ้วลงมาข้างๆฉัน และบัดนี้
ฉันไม่อยากจะคิดว่าความรักนี้เป็นความผิดพลาด
ฉันรักเธอ ฉันน่าจะเคยรักมากเสียจนที่ฉันอยากจะได้ยินเสียงเธอตลอดเวลา
แต่ถึงกระนั้น เธอที่มือฉันยื่นเข้าไปหา ดูเหมือนกำลังจะเลือนหายไป
การที่เราทนกันและการที่พูดว่าไม่เป็นไรอย่างฉับไว
คือที่ๆเราทำผิดกันอย่างแน่นอน
ฉันนึกเสมอว่าฉันอยากจะอยู่กับเธอ แต่ถึงกระนั้น
การเดินผ่านกันเปลี่ยนความเป็นจริงรึ?
ฉันรู้สึกว่าเราสามารถเอารอยยิ้มเหล่านั้นกลับมาได้
เหมือนที่เราเคยมีกันในวันนั้น ฉันอยากจะกอดเธอ
กลีบดอกไม้พลิ้วลงมาข้างๆฉัน และบัดนี้
ฉันไม่อยากจะคิดว่าความรักนี้เป็นความผิดพลาด
กลีบดอกไม้พลิ้วลงมาข้างๆฉัน และบัดนี้
ฉันไม่อยากจะคิดว่าความรักนี้เป็นความผิดพลาด
เธอที่มือยังคงเงียบงัน
น้ำตาที่ไหลไปถึงตาของเธอมันพร่างพรูออกมา
นำกลับมาซึ่งช่วงเวลาของเราที่ได้กลายมาเป็นแบบนี้
กลีบดอกไม้พลิ้วลงมาข้างๆฉัน และบัดนี้
ฉันไม่อยากจะคิดว่าความรักนี้เป็นความผิดพลาด
ฉันรักเธอ ฉันรักเธอ มากเสียจนที่ฉันอยากจะโอบดอดเธอเอาไว้แม้ในขณะนี้
แต่ถึงกระนั้น เธอที่มือฉันยื่นเข้าไปหา ดูเหมือนกำลังจะเลือนหายไป

God Knows - Aya Hirano


kawaita kokoro de kakenukeru
gomen ne nani mo dekinakute
itami wo wakachiau koto sae
anata wa yurue kurenai
muku ni ikiru tame ni furimukazu
senaka mukete satteshimau
on the lonely rail
watashi tsuiteiku yo
donna tsurai sekai no yami no naka de sae
kitto anata wa kagayaite
koeru mirai no hate
yowasa yue ni tamashii kowasarenu you ni
my way kasanaru yo
ima futari ni God bless...
anata ga ite watashi ga ite
hoka no hito wa kieteshimatta
awai yume no utsukushisa wo egakinagara
kizuato nazoru
dakara watashi tsuiteiku yo
donna tsurai sekai no yami no naka de sae
kitto anata wa kagayaite
koeru mirai no hate
yowasa yue ni tamashii kowasarenu you ni
my way kasanaru yo
ima futari ni God bless...

แปลไทย

เดินไปบนเส้นทาง ทั้งๆที่ใจไร้เรี่ยวแรง
ขอโทษที, ได้โปรดเธอจงมองมาทางนี้
เธอยังคงเมิน ยังคงก้าวไปเหมือนเธอไม่ยิน
หากเธอเข้าใจ ได้โปรดเถอะยอมเปิดใจให้ชั้น
ให้ชั้นเดินกลับ แล้วทำไม่เป็นให้เป็นเหมือนคนไม่คุ้นเคยก็ได้อยู่
ตัดทิ้งเรื่องความรังเล แล้วมุ่งบนทางของเธอ
ที่เคยเป็น lonely rail
ต่อจากนี้ ชั้นจะเดินตามเธอไป
ไม่ว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร แม้ทางข้างหน้าจะเลวร้ายหรือดี
ชั้นเองก็ไม่รู้ แค่มีเธอเหมือนดั่งมีไฟส่องนำทาง  
อนาคตเหมือนกับเริ่องที่ไม่รู้ 
ขอให้เพียงเธอได้รู้ ว่าตัวชั้นนั้น จะไม่ขวางทางเธอ..เชื่อสิ 
My way มันกลับซ้อนเหมือนทางของเธอ 
Plz give us "God Bless"
เมื่อเธอยังอยู่ที่นี้, และฉันก็อยู่ที่นี้
เหมือนว่ารอบข้างเคว้างคว้าง รอบตัวเหมือนไม่มีใคร
เมื่อเธอได้ลองนึกมา เมื่อเธอและชั้นได้เขียนในสิ่งที่ฝัน,
เพราะตัวชั้นนั้นไม่เคยจะกลัวอันตราย
เพราะฉนั้น , ต่อจากนี้ ชั้นจะเดินตามเธอไป
ไม่ว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร แม้ทางข้างหน้าจะเลวร้ายหรือดี
ชั้นเองก็ไม่รู้ แค่มีเธอเหมือนดั่งมีไฟส่องนำทาง 
อนาคตเหมือนกับเริ่องที่ไม่รู้
ขอเพียงให้เธอรู้ ว่าตัวชั้นจะไม่ขวางทางเธอ..เชื่อสิ
My way มันกลับซ้อนทางของเธอ
Plz give us "God Bless"